Equilibrium | นักบวชฆ่าไม่ต้องบวช (2002)

รีวิวหนัง Equilibrium นักบวชฆ่าไม่ต้องบวช (2002)

แค่ชื่อก็รู้ว่ามันเป็นหนังเกี่ยวกับศาสนาอย่างแน่นอนวันนี้เราได้มีโอกาสเปิดเข้าไปในเว็บหนัง ซีรี่ย์ Netflix หนังเรื่องเก่าที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2000 ต้นๆ หวนคืนกลับมาดูหนังเก่าเรื่องนี้อีกสักรอบ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำหนดโทษสำหรับความไร้มนุษยธรรมของมนุษย์ต่อความสามารถที่จะละเลยสาเหตุที่แท้จริงเช่นศาสนาอำนาจทางการเมืองและสิ่งที่เชื่อถือ

แต่พอได้มาติดตามเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้แล้วก็ผมว่ามันไม่ใช่หนังศาสนาแต่มันคือหนัง แอคชั่น Action ไซไฟเฉยเลย เรื่องราวในประเทศไหนเบียร์ในโลกอนาคตระบบการปกครองที่เข้มงวดได้ ขจัดสงครามโดยการระงับอารมณ์ ปราศจากหนังสือ ศิลปะและดนตรีเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัดและความรู้สึกที่ต้องเป็นอาชญากรรมที่มีโทษถึงตาย เซริค จอห์น เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลที่รับผิดชอบในการทำลายผู้ที่ต่อต้านแต่เมื่อเขาพลาดถ้าให้กับยาโพรซึม ยาชนิดที่เปลี่ยนจิตใจของอารมณ์ เขาจึงได้รับการฝึกฝนให้บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดของระบอบการปกครองแบบใหม่ จู่ๆเขากลายเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่สามารถล้มล้างกันได้

ดูหนังออนไลน์ ซีรี่ย์ Netflix เรื่อง Equilibrium นักบวชฆ่าไม่ต้องบวช ผลงานหนังชิ้นเอกที่อาจถูกมองข้ามเลยผ่านไป ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะมันมาถึงจุดสูงสุดของความคล้ายคลึงกับหนังเรื่องดังอย่าง The Matrix ซึ่งอาจมีความคล้ายคลึงกันในหลายๆด้าน น่าเสียดายที่มีคนจำนวนมากเกินไปที่จะเขียนมันออกมาอย่างไร้ความปราณีในฐานะหนังเหมือนกันและน่าเสียดายเพราะนี่เป็นหนึ่งในภาพยนตร์นิยายไซไฟที่ทำออกมาได้ดีและชื่อไทยมันเกี่ยวข้องกับนักบวชจริงๆหรือเนี่ย ในศตวรรษที่ 21 อันไกลโพ้นแต่มันไม่เกี่ยวกับอนาคตเพราะมันมีอยู่ในอนาคตที่ไม่เคยมีอยู่จริง ความเป็นจริงที่น่าฉงนว่าสงครามเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของมนุษย์และเพื่อที่จะกำจัดมันให้สิ้นซากจากโลกสมัยใหม่ไปสักทีที่เราจะต้องกลายเป็นสังคมที่เป็นเนื้อเดียวกันของซอมบี้ที่ควบคุมด้วยยาและอารมณ์ ไม่มีเรื่องที่ทำให้ยิ้มได้เลยในส่วนของการเกี่ยวกับหนัง

ต่อมาหนังเรื่องนี้กำหนดโทษสำหรับไอคนไร้ความเป็นมนุษยธรรมของมนุษย์ต่อความสามารถที่จะรู้สึก ละเลยสาเหตุที่แท้จริง สิ่งที่ไม่เชื่อฟังน้อยลงไปอีก ความเย่อหยิ่งของชาติและสิทธิมนุษยชน รัฐบาลปัจจุบันมีพื้นฐานมาจากการบังคับให้มวลชนกำจัดอารมณ์จากมวลชนโดยใช้ยาโพรซึมและเป็นที่มาของความประชดประชันเพื่อที่จะขจัดสงครามออกไป ซึ่งสงครามในครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างพลเมืองของตนทุกคนซึ่งอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะพิจารณา ความเกี่ยวข้องในโลกแห่งความเป็นจริงของเนื้อหาในภาพยนตร์โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึง หลักความสมจริงว่ามันจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน ระบอบเผด็จการขายกับวิธีการกดขี่ ของเหมาเจ๋อตุงด้วยความใกล้ชิดที่น่าตกใจแม้กระทั่งเด็กที่แอบดูและรายงานพ่อแม่ของพวกเขาภายใต้การปกครอง สิ่งเหล่านั้นที่ทำให้เราได้เห็นว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่อต้านการปฏิวัติ ได้รับการยกย่องอยากเปิดเผยในฐานะวีรบุรุษแห่งชาติ ขณะที่พวกเขาถูกทรมานและประหารชีวิต

เอาจริงๆนะเรามองว่าหนังเรื่องนี้คล้ายครึ่งกับภาพยนตร์เดอะแมสทริคอย่างชัดเจนเลยทีเดียวแต่ส่วนใหญ่มันชัดเจนไปด้วยฉากต่อสู้และเครื่องแต่งกายบางประเภทที่ถอดแบบมาก็เท่านั้นเรามองเห็นความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและถึงแม้ว่าจะคล้ายกันมากแต่เรื่องนี้ก็ยังคงยืนหยัดเอาไว้ว่าตัวเองไม่เหมือนจ้า แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาที่โชคไม่เข้าข้างเพราะนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไป หากคุณไม่สามารถที่จะแยกแยะออกได้ หนัง Netflix เรื่องนี้ก็เป็นเพียงหนังดูง่ายๆสบายๆแบบไม่ต้องคาดหวังก็แค่นั้นเอง