The Holdovers (2023) | ฤดูหนาวนี้ไม่ไร้ไออุ่น

The Holdovers (2023) | ฤดูหนาวนี้ไม่ไร้ไออุ่น

ใน "The Holdovers" อเล็กซานเดอร์ เพย์นแสดงให้เห็นถึงการละทิ้งแนวโน้มที่จะวางตัวต่อตัวละครดังที่เห็นในภาพยนตร์เรื่อง "Election" และ "Nebraska" ครั้งนี้ ความเสน่หาของเพย์นต่อตัวละครของเขาปรากฏชัดในทุกเฟรม บทสนทนา และตัวเลือกการเล่าเรื่อง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งเป็นละครตลกที่น่ายินดีซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 70 นำเสนอการสำรวจที่น่าหลงใหลของการเชื่อมโยงที่ไม่คาดคิดและความคาดเดาไม่ได้ของชีวิต
พอล จิอาแมตติ ซึ่งกลับมาร่วมงานกับเพย์นอีกครั้งหลังจาก "Sideways" นำเสนอการแสดงที่หนักแน่นและหนักแน่นในบทพอล ฮันแฮม ศาสตราจารย์ผู้โหดเหี้ยมที่สถาบันบาร์ตัน ฮันแฮม ซึ่งหลายคนไม่ชอบใจ พบว่าตัวเองดูแลนักเรียนไม่กี่คนที่อยู่ช่วงปิดเทอมคริสต์มาส พลังที่เปิดเผยเผยให้เห็นถึงอิทธิพลอันลึกซึ้งที่พวกเขามีต่อกันและกัน ดูหนัง

ทั้งสามคน ได้แก่ แองกัส (โดมินิก เซสซา) เด็กสาววัย 15 ปีผู้มีไหวพริบแต่ไม่แน่ใจ และแมรี่ (ดาไวน์ จอย แรนดอล์ฟ) พ่อครัวแม่ครัวผู้โศกเศร้าที่สูญเสียลูกชายไปในสงครามเวียดนาม ในขณะที่พ่อ แม่ และคนสนิทที่อายุน้อยต้องเผชิญเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างของพวกเขา "The Holdovers" จะสำรวจพลังของมิตรภาพและการให้คำปรึกษาที่คาดไม่ถึงได้อย่างสวยงาม
บทของเดวิด เฮมมิงสัน แม้จะรับเอาความคิดโบราณบางอย่าง แต่ก็สามารถสานต่อบทเรียนชีวิตได้อย่างเป็นธรรมชาติ หลีกเลี่ยงจุดหักมุมของพล็อตเรื่องที่คาดเดาได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่ชีวิตที่ไม่อาจคาดเดาได้ช่วยเพิ่มความลึกให้กับการเล่าเรื่อง

ความฉุนเฉียวของจิอาแมตติถูกเน้นย้ำอย่างตลกขบขันในฉากแรกๆ ซึ่งสร้างความแตกต่างที่ทรงพลังเมื่อกำแพงของตัวละครของเขาเริ่มพังทลาย แรนดอล์ฟแสดงท่าทีสะเทือนใจ รับรู้ถึงความโศกเศร้า ในขณะที่เซสซาโดดเด่นด้วยการพลิกผันที่มีเสน่ห์และมีแนวโน้ม

แม้จะเข้ากับธีมที่คุ้นเคยของครอบครัวชั่วคราวที่กำลังเรียนรู้บทเรียนชีวิต แต่ "The Holdovers" ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างน่าทึ่ง เพย์นผสมผสานเรื่องราวเข้ากับความจริงที่สะท้อนไปทั่วโลก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการนำเสนอตัวละครที่ฉลาดและตลกซึ่งง่ายต่อการเข้าใจ ความดึงดูดใจเหนือกาลเวลาอยู่ที่การยอมรับมิตรภาพและการให้คำปรึกษาที่ไม่คาดคิดซึ่งเปลี่ยนแปลงวิถีแห่งชีวิต

โดยสรุป "The Holdovers" ถือเป็นการกลับมาอย่างอบอุ่นใจของอเล็กซานเดอร์ เพย์น โดยนำเสนอภาพยนตร์ที่ตลกขบขันและเข้าถึงได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวบรวมแก่นแท้ของการเชื่อมโยงอย่างแท้จริง